Home » BMW » รุ่นและราคา BMW K 1300 R และรุ่น S ความแตกต่างที่แรงเต็มกำลัง

รุ่นและราคา BMW K 1300 R และรุ่น S ความแตกต่างที่แรงเต็มกำลัง

รุ่นและราคา BMW K 1300 R และรุ่น S ความแตกต่างที่แรงเต็มกำลัง

วันนี้เราจะมาพูดถึงบิ๊กไบค์ไซส์ใหญ่ BMW K 1300 R กับสปอร์ตไบค์สุดเนี๊ยบ BMW K 1300 S ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 1300 ซีซี เป็นแฝดคนละฝา สำหรับบีเอ็มดับเบิ้ลยูคู่ที่แตกต่างเพียงแค่ ตัวเอส และตัวอาร์เท่านั้น เรียกว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีความสวยงามทั้งสองคัน มีความโฉบเฉี่ยวมีอารมณ์ความเป็นสปอร์ตอย่างไม่น่าเชื่อ พร้อมทั้งยังตอบโจทย์ด้านพละกำลังได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับ K 1300 R เป็นบิ๊กไบค์ที่มาในมาดกวน มองแล้วเหมือนวัยรุ่น ที่มีหน้าตาค่อนข้างกวน แต่ก็มีความเท่ ความเซอร์ ความดิบ เป็นสปอร์ตไบค์ที่ไม่เหมือนสปอร์ตไบค์ เป็นการผสมผสานระหว่าง SPORTBIKE และ เน็คเก็ตไบค์ได้อย่างลงตัว แต่ทางด้าน K 1300 S เป็นสปอร์ตไบค์ที่เรียบหรู หล่อ เท่ มีสไตล์ มีความสมาร์ทและดูสปอร์ตทุกตารางนิ้ว มีความดุดัน และความแข็งแกร่งอยู่ทุกเส้นสาย สำหรับสองรุ่นนี้ แม้จะเป็นซีรีส์เดียวกัน มีขนาดเครื่องยนต์ที่เท่ากัน แต่สร้างพลังได้อย่างแตกต่าง มีขุมพลังที่คุณจะต้องตะลึง กับความแรงที่ทรงอานุภาพ

Advertisement

เฉดสีและราคา BMW K 1300 R และ S

เฉดสีภายนอกของ BMW K 1300 R มีเพียงสีเดียวเท่านั้นครับ คือสีดำ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดำทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็นเฟรมหรือตัวถัง ก็ดุดัน ดาร์ค และเข้มมากๆ มีเพียงแค่ท่อไอเสียและชิ้นส่วนต่างๆบางส่วนที่เป็นสีเงินเท่านั้น ราคาของBMW K 1300 R รุ่นนี้อยู่ที่ 12,125 ปอนด์

แต่ทางด้านส่วนเฉดสีภายนอกของทาง K 1300 S ก็มีเพียงสีเดียวเช่นกัน คือสีดำ ดำสนิททั้งคัน ทั้งเฟรมด้านข้าง ตัวถัง เบาะนั่ง มีแค่ไอเสียเท่านั้นที่เป็นสีเงินสุดเท่ สำหรับราคา BMW K 1300 S สนนราคาอยู่ที่ 15,555 ดอลล่าห์สหรัฐ เป็นราคาที่ไม่แพงมาก เหมาะสมและคุ้มค่ามากๆ เรียกว่าคุณจะได้ทั้งเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ สมรรถนะที่เหนือชั้น ภายนอกที่หรูหรามีสไตล์ และประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยม ในราคาสี่แสนกว่าบาท ในแบรนด์ BMW เป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆครับ

รุ่นและราคา BMW K 1300 R และรุ่น S ความแตกต่างที่แรงเต็มกำลัง

Advertisement

ดีไซน์ภายนอก ออกแบบมาแบบไม่ให้มีกรอบไฟหน้า โดยเน้นให้เห็ดสัดส่วนที่โดดเด่น ไฟหน้าใช้แบบวงรีซ้อนกันสองวง ไฟเลี้ยวแยกออกมาอย่างสวยงาม กระจกกั้นลมทันสมัยขนาดกะทัดรัด กระจกมองข้างโดดเด่นและให้วิสัยทัศน์ในการส่องที่ดี ตัวถังโค้งมนได้รูปโฉบเฉี่ยวและมีสไตล์ มีสัญลักษณ์ BMW ข้างตัวถังเพิ่มความพรีเมี่ยมได้อย่างลงตัว เบาะนั่งทันสมัย ล้ำสไตล์ นั่งสบายรองรับทุกสรีระการขับขี่ ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อน มิติภายนอกมีระยะฐานล้อที่ 1,585 mm มีมุมคาสเตอร์ 104.4 mm มีความยาว 2,228 mm

สปอร์ตโดนใจด้วยไฟหน้าขนาดใหญ่ ส่องพลังสว่างได้อย่างคมชัด ไฟเลี้ยวติดหลังกระจกมองข้าง  กระจกกั้นลมโดดเด่นสไตล์สปอร์ตดีไซน์โมเดิร์น ตัวถังมีขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ความสปอร์ตได้เป็นอย่างดี เบาะนั่งออกแบบมาให้นั่งสบายที่สุด โดยเบาะนั่งผู้ขับขี่ออกแบบมาให้ต่ำ เพื่อการคอนโทรลที่สบายและง่ายกว่าเดิม ความยาว 2.182 mmความกว้างรวมกระจก 905 mm ความสูงรวมกระจก 1.221 mm น้ำหนักเปียก 460 kg จุน้ำมันได้ 19 litres เลยทีเดียว

สมรรถนะความปลอดภัย

เครื่องยนต์ของ BMW K 1300R ใช้เครื่องยนต์ Water-cooled 4-stroke in-line four-cylinder engine, two overhead camshafts, four valves per cylinder 1,293 cc มีช่วงชักของกระบอกสูบที่ 80 mm x 64,3 mm มีแรงม้าที่ 127 kW (173 hp) at 9,250 rpm มีแรงบิดที่ 140 Nm at 8,250 rpm มีอัตราการอัดที่ 13.0 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงผ่านระบบ Electronic intake pipe injection/digital engine management including knock sensor (BMS-K+) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ Constant mesh 6-speed gearbox

ส่วน BMW K 1300 S ก็ใช้เครื่องยนต์แบบ Water-cooled 4-stroke in-line four-cylinder-engine, four valves per cylinder, two overhead camshafts, dry sump lubrication เช่นกัน โดยมีปริมาตรกระบอกสูบเท่ากันที่ ที่ 1.293 ccm ให้กำลังสูงสุดที่ 129 kW (175 hp) at 9,250 rpm และมีแรงบิดที่ 140 Nm at 8,250 rpm รองรับเชื้อเพลิงแบบ Unleaded premium, octane number 98 (RON), automatic knock control permits operation with minimum octane number 95 (RON). ผสานการทำงานของเครื่องยนต์แบบ 12 V / 12 Ah, maintenance-free ใช้ระบบคลัทช์แบบ Multiple-disc clutch in oil bath, hydraulically operated

รุ่นและราคา BMW K 1300 R และรุ่น S ความแตกต่างที่แรงเต็มกำลัง

ส่วนระบบการเซฟตี้ของทั้งสองรุ่น แข็งแรงด้วยเฟรมแบบ Bridge-type frame, cast aluminium, load-bearing engine  ช่วงล่างมีระบบกันสะเทือนแบบ BMW Motorrad Duolever; central spring strut และมีระบบกันสะเทือนหลังแแบบ Cast aluminium single-sided swing arm with BMW Motorrad Paralever; central spring strut with lever system, spring pre-load adjustable hydraulically (continuously variable) at handwheel, adjustable rebound damping ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วยระบบเบรคก็มั่นใจได้เพราะใช้เบรคแบบ Twin disc, floating brake discs, diameter 320 mm, 4-piston fixed calipers และเบรคหลังแบบ Single disc brake, diameter 265 mm, double-piston floating caliper พร้อมเบรกเอบีเอส

สรุปเลยนะครับ ใครที่ชอบสปอร์ตไบค์สไตล์ดิบๆหน่อยก็ต้องเป็น BMW K 1300 R แต่ถ้าชอบสปอร์ตทุกองศาก็ต้อง BMW K 1300 S เท่านั้น แต่ขอบอกว่าบีเอ็มดับเบิ้ลยูรุ่นนี้มีให้คุณเลือกถึงสองตัวในสไตล์ที่แตกต่าง คุณจึงสามารถมีช้อยส์ในการตัดสินใจได้มากกว่า ภาพรวมถือว่ามีการออกแบบที่สวยงามทั้งสองคันเลยครับ

Review Overview

ให้คะแนนบทความนี้

User Rating: 4.9 ( 1 votes)