Home » เทคนิคการดูแลรถยนต์ » ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง พร้อมรูปภาพประกอบ

ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง พร้อมรูปภาพประกอบ

ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง พร้อมรูปภาพประกอบ

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับวิธีการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง สำหรับวิธีการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์เป็นเรื่องง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง วันนี้เราจะพาไปพบกับขั้นตอนการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ ในระบบเครื่องเสียงของรถยนต์บางรุ่นอาจจะมีความซับซ้อนหรือแตกต่างจากรุ่นอื่นอยู่บ้าง อย่าลืมดูคู่มือประกอบในการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ก่อนทุกครั้ง

ก่อนที่จะทำการลงมือติดตั้งเครื่องเสียง หรือคุณอาจจะซื้อเครื่องเสียงรถยนต์จากร้านที่มีช่างที่ชำนาญสามารถให้คำแนะนำคุณได้เมื่อเกิดปัญหา สิ่งสำคัญที่อย่าลืมก่อนที่จะซื้อเครื่องเสียงรถยนต์ ให้แน่ใจว่าชุดเครื่องเสียงสามารถเข้ากับรถคุณได้ก่อนที่จะซื้อ มาดูกันว่าแต่ละขั้นตอนการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์มีอะไรบ้าง

Advertisement
Advertisement

วิธีการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์

ขั้นตอนที่ 1 เอาเครื่องเสียงชุดเก่าออกมา

ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
1. ดึงเบรคมือขึ้นและดึงสายไฟขั้วลบออกจากแบตเตอรี่. ต้องทำทุกครั้งเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรขณะติดตั้ง
  • สำหรับคำแนะนำเรื่องการถอดขั้วแบตเตอรี่ ให้ดูที่คู่มือวิธีการถอดแบตเตอรี่รถยนต์
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
2. ไขสกรูทุกตัวที่ยึดกรอบหน้าที่ครอบเอาไว้ออก. เช็คให้ดีทุกครั้งว่าไขสกรูออกครบทุกตัวแล้วไม่งั้นคุณอาจทำมันพังได้
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
3. ดึงกรอบที่ครอบตรงเครื่องเสียงเอาไว้ออก. สำหรับรถบางคันคุณอาจต้องเอากรอบพลาสติกออกด้วย ส่วนใหญ่ทำได้ง่ายๆ เมื่อแกะจากล่างขึ้นบน
  • ถ้าคุณจำเป็นต้องเอาปุ่มหรือลิ้นชักออก ให้ทำก่อนที่จะดึงกรอบออก
  • ใช้มือหรืออุปกรณ์ที่ใช้งัดแงะในการช่วยแกะ อุปกรณ์ออกแบบมาเพื่อการแกะโดยเฉพาะและจะไม่ทำให้ชิ้นส่วนนั้นพัง
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
4. ดึงชิ้นส่วนอื่นๆ ที่สำคัญออก. หากคุณจำเป็นต้องดึงชิ้นส่วนอื่นออกก่อนที่จะนำเครื่องเสียงออกมา ให้ทำ
  • ปลดสายไฟที่เชื่อมต่อออก ถ่ายรูปเอาไว้ว่าแต่ละสายเชื่อมต่อยังไง ป้องกันการลืมเวลาต่อกลับ
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
5. นำเครื่องเสียงออกมา. รถแต่ละรุ่นจะมีตัวยึดในตำแหน่งที่ไม่เหมือนกันและจำนวนไม่เท่ากัน
  • หากเครื่องเสียงถูกยึดไว้ด้วยสกรูหรือน็อต ให้ไขออกด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น ไขควง หรือ ประแจ
  • ถ้าหากเครื่องเสียงไม่ได้ถูกยึดไว้ด้วยสกรูหรือน็อต แสดงว่าคุณต้องใช้อุปกรณ์หรือกุญแจสำหรับถอดเครื่องเสียงโดยเฉพาะ อุปกรณ์นี้จะพบได้บ่อยกับรถยี่ห้อฟอร์ด อุปกรณ์นี้มักจะเป็นลักษณะเหมือนเกือกม้ายาวๆ หรือเป็นวงกลมด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านเป็นแท่งมีแฉก สามารถหาซื้อได้ตามร้านอะไหล่รถยนต์ทั่วไป
  • สอดกุญแจเข้าไปในช่องเล็กๆ ด้านหน้าสองช่องของเครื่องเสียง คุณต้องปล่อยให้เครื่องเสียงอยู่กับที่ จากนั้นเลื่อนกุญแจเข้าไปให้ลงล็อกจนกระทั่งรู้สึกว่าตัวเครื่องเสียงหลุดออกมาแล้ว เพียงเท่านี้คุณก็สามารถดึงออกมาได้อย่างง่ายดาย
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
6. ดึงเครื่องเสียงออกมาจากช่องใส่. คุณสามารถใช้คีมปากแหลมคีบเอาไว้ที่ขอบเพื่อช่วยดึงออกมาได้ ค่อยๆ ดึงออกมาเบาๆ และถ้าหากดึงออกมาไม่ได้ ลองเช็คดูว่าลืมถอดสกรูตัวไหนหรือไม่
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
7. ถ่ายรูปรูปแบบการเชื่อมต่อสายไฟเข้ากับเครื่องเสียง. นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพราะรูปภาพที่ถ่ายไว้จะช่วยให้คุณต่อวงจรเครื่องเสียงชุดใหม่ได้ถูกต้อง
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
8. ถอดสายไฟที่เชื่อมต่ออยู่ออก. คุณจะเห็นได้ว่ามีชุดสายไฟเชื่อมต่อเอาไว้ คุณต้องปลดมันออก
  • อย่างแรกให้ถอดสายอากาศออก ส่วนใหญ่จะเป็นสายไฟเส้นหนาที่ต่อแยกจากอันอื่น ถ้าคุณถอดมันแล้วคุณจะสามารถขยับตัวเครื่องเสียงได้ง่ายขึ้น
  • ขั้นตอนต่อไปให้ปลดชุดสายไฟออก จะเป็นสายไฟที่ถูกมัดรวมกันเอาไว้และเชื่อมติดกันด้วยหัวพลาสติก โดยที่หัวพลาสติกจะมีปุ่มให้กดเข้าไปเพื่อคลายตัวล็อก

ขั้นตอนที่ 2 การติดตั้งเครื่องเสียงชุดใหม่

Install a Car Stereo Step 9
1. จับคู่สายไฟ. จับคู่ชุดสายไฟของรถกับเครื่องเสียงชุดใหม่ ซึ่งหัวต่อแต่ละหัวจะแตกต่างกันไป มันน่าจะง่ายว่าตัวไหนคู่กับช่องไหน
  • เพื่อความปลอดภัย เช็คแผนผังวงจรทั้งของรถยนต์และเครื่องเสียงเพื่อให้แน่ใจว่าคุณต่อถูกต้อง
  • หากรถของคุณไม่ได้มัดสายไฟรวมกันไว้เป็นชุด คุณจะต้องเชื่อมต่อสายไฟด้วยตนเอง สายไฟจะมีสีเฉพาะของมัน แต่ว่าก็เป็นไปได้ที่สีของสายไฟจะไม่ตรงกัน เป็นการดีที่สุดถ้าคุณจะศึกษาผังวงจรที่มีแถมมาให้กับเครื่องเสียง
  • ต่อสายไฟเข้าด้วยกัน ซึ่งจะมีวิธีการอยู่สองแบบ คือ ใช้คลิปหนีบสายไฟ หรือ บัดกรี การหนีบให้ติดกันจะง่ายและเร็วกว่า แต่การบัดกรีจะคงทนและปลอดภัยกว่า ขอให้แน่ใจว่าคุณใช้ตัวหนีบที่มีขนาดพอเหมาะและอย่าพยายามพันสายไฟด้วยเทปธรรมดา เพราะมันจะหายเหนียวและหลุดออกเอง ให้รัดไว้ด้วยเทปพันสายไฟดีกว่า
Install a Car Stereo Step 10
2. ใส่อุปกรณ์การติดตั้ง. ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่สำหรับการติดตั้งให้ทำตามขั้นตอนในคู่มือ ซึ่งโดยทั่วๆ ไปเป็นแค่การติดอุปกรณ์เข้ากับแผ่นยึดเครื่องเสียง
  • กดลงไปบริเวณใกล้เคียงกับช่องใส่สกรูขณะไขเพื่อให้แน่ใจว่าแผ่นยึดจะอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
ตั้งชื่อภาพ Install a Car Stereo Step 11
3. ต่อเข้ากับระบบไฟฟ้า. โดยทั่วๆ ไปถ้ามีชุดสายไฟอยู่แล้วก็เพียงแค่ต่อมันเข้ากับช่องเสียบเท่านั้น
  • ถ้าว่าคุณไม่ได้ใช้ชุดสายไฟที่มัดรวมกันไว้ คุณจะต้องต่อเข้ากับระบบด้วยตนเอง ลองดูว่าระบบของรถคุณเป็นแบบสลับ (มักจะเป็นสีแดง) หรือเป็นแบบตรง (มักจะเป็นสีเหลือง) ซึ่งสำหรับรถบางรุ่นอาจจะมีทั้งสองอย่าง
ตั้งชื่อภาพ Install a Car Stereo Step 12
4. ต่อสายดิน. ถ้าเป็นชุดสายไฟ สายดินจะเชื่อมต่อเมื่อคุณเสียบชุดสายไฟเข้าด้วยกัน
  • ถ้าไม่ได้เป็นชุดสายไฟ คุณจะต้องหาข้อต่อ สายไฟ และสกรูที่ใส่อยู่กับโครงรถยนต์หรือแชสซี คลายเกลียวออกแล้วสอดสายดิน (ปกติจะมีสีดำ) เข้าไปข้างใต้ แล้วค่อยไขกลับให้แน่น
  • คำนึงอยู่เสมอว่าการต่อสายดินจะสำคัญมากต่อคุณภาพเครื่องเสียง ถ้าสายดินไม่ได้เชื่อมต่ออยู่กับโครงเหล็กเปลือย มันจะไม่ทำงาน และถ้าหากคุณไขไม่แน่นพอ อาจจะทำให้เสียงที่ได้ออกมาไม่ดี คุณสามารถนำกระดาษทรายมาขัดบริเวณนั้นเมื่อให้แน่ใจว่าเชื่อมต่อได้อย่างดีเยี่ยม
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
5. ต่อสายไฟอื่นๆ. ต่อสายอากาศและหม้อแปลงเครื่องเสียงเข้ากับชุดสายไฟของรถยนต์ ต่อสายเปลี่ยนสัญญาณที่เข้ากับระบบเครื่องเสียงรถยนต์ได้ ถ้าต้องการ
Install a Car Stereo Step 14
6. ทดสอบเครื่องเสียงรถยนต์. เปิดเครื่องเสียงรถยนต์และลองระบบวิทยุ AM และ FM รวมทั้งการเล่นแผ่นซีดี ทดสอบการตั้งค่าความดังและบาลานซ์ของเสียง เพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานกับลำโพงได้ปกติ เมื่อแน่ใจแล้วก็ปิดเครื่องเสียง

ขั้นตอนที่ 3 จบการทำงาน

Install a Car Stereo Step 15
1. ใส่เครื่องเสียงเข้าไปในช่อง. เมื่อใส่เข้าไปจนถึงตำแหน่งที่ถูกต้อง คุณควรจะได้ยินเสียงคลิก
ตั้งชื่อภาพ Install a Car Stereo Step 16
2. ประกอบส่วนต่างๆ กลับเข้าไปเหมือนเดิม. ใส่สกรูกลับเข้าไปที่เดิมเพื่อล็อกให้เครื่องเสียงอยู่กับที่ ต่อสายไฟให้เป็นเหมือนเดิม และใส่ปุ่มกดหรือลิ้นชักที่ถอดออกมากลับเข้าที่
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
3. ใส่กรอบหน้าบริเวณเครื่องเสียงกลับเข้าไปเหมือนเดิม. เช็คอีกครั้งว่าสกรูและกรอบทุกอย่างอยู่ในลักษณะที่ถูกต้องของมัน
ขั้นตอนและวิธีการติดเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยตัวเอง
4. ลองเครื่องเสียงตัวใหม่. บิดกุญแจให้มีไฟฟ้าเข้าหรือสตาร์ทรถอีกครั้ง และลองเล่นเครื่องเสียงดู รวมทั้งการตั้งค่าต่างๆ ต้องแน่ใจว่าทุกอย่างสามารถทำงานได้อย่างปกติ

เคล็ดลับในการติดเครื่องเสียงรถยนต์

  • ต้องแน่ใจว่าคุณซื้อเครื่องเสียงรถยนต์รุ่นที่สามารถใส่เข้ากับรถของคุณได้ ถ้าหากคุณต้องการความช่วยเหลือในการตัดสินใจ ให้ไปที่ร้านขายอุปกรณ์เครื่องเสียงรถยนต์ที่มีช่างผู้เชี่ยวชาญและขอคำแนะนำ ถ้าหากเครื่องเสียงไม่สามารถใส่เข้ากับรถของคุณได้ ในบางครั้งจะมีอุปกรณ์ที่ทำให้ใส่เข้าไปได้อย่างพอดี
  • ร้านค้าบางร้านจะมีบริการติดเครื่องเสียงรถยนต์ฟรีหรือจ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อย หากคุณซื้อของกับทางร้านนั้นๆ เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะถาม
  • เวลาถอดสกรูหรือน็อตทุกตัว ให้ใส่ไว้ในที่วางแก้วในรถ เพื่อที่จะได้ไม่ทำมันหาย
  • เพื่อให้การต่อสายไฟเป็นเรื่องง่าย ลองดูว่ามีหม้อแปลงหรือตัวแปลงสัญญาณที่สามารถเชื่อมต่อสายไฟชุดเก่าเข้ากับเครื่องเสียงใหม่หรือไม่

คำเตือนในการติดเครื่องเสียงรถยนต์

  • ทำตามคู่มือประกอบการติดตั้งที่มีมากับกล่องเครื่องเสียงรถยนต์ เนื่องจากการติดตั้งในแต่ละรุ่นอาจจะมีความแตกต่างกันไป
  • ถ้าคุณรู้สึกทำไม่ถูกหรือสับสน ให้ไปขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่อย่างนั้นแล้วคุณอาจทำให้รถยนต์เสียหายหรือเป็นตัวคุณเองที่ได้รับบาดเจ็บ

สิ่งที่คุณต้องใช้ในการติดเครื่องเสียงรถยนต์

  • รถที่มีระบบเครื่องเสียง
  • เครื่องเสียงรถยนต์ชุดใหม่
  • ไขควงสี่แฉกหรือปากแบน (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
  • ประแจสำหรับไขน็อต (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
  • อุปกรณ์สำหรับถอดชุดเครื่องเสียง (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
  • อุปกรณ์สำหรับงัดแงะ (ตามความต้องการ)
  • คีมปากแหลม (ตามความต้องการ)
  • ที่รัดสายไฟ
  • เทปพันสายไฟ
  • หัวแร้งบัดกรีหรือคลิปหนีบสายไฟ

เป็นอย่างไรกันบ้าง ไม่ยากนักใช่มั้ย สำหรับขั้นตอนและวิธีการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ หากคุณตามขั้นตอนที่กล่าวมาและลองอ่านในคู่มือการติดตั้งเครื่องเสียงแล้วยังทำไม่สำเร็จ ให้คุณลองติดต่อสอบถามจากร้านที่ได้ซื้อชุดติดตั้งเครื่องเสียงมา หรือขอคำแนะนำจากเขาอีกครั้ง

ที่มาและการอ้างอิง

User Rating: Be the first one !