Home » รถยนต์ » Mazda » มาสด้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ Mazda Carbon Editon 2023 มากถึง 4 รุ่น

มาสด้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ Mazda Carbon Editon 2023 มากถึง 4 รุ่น

มาสด้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ Mazda Carbon Editon 2023 มากถึง 4 รุ่น

หลังจากเปิดตัวแนะนำอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา กับรถยนต์มาสด้ารุ่นพิเศษที่มาสด้าบรรจงสรรสร้างขึ้น ภายใต้ชื่อ Mazda Carbon Edition ที่ได้รับการเนรมิตโฉมด้วยการนำคอนเซ็ปต์สไตล์คาร์บอนมาสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อถ่ายทอดภาพลักษณ์ความสปอร์ต เพิ่มความหรูหรามีระดับทั้งภายนอกและภายใน และถ่ายทอดลงในรถยนต์ที่กำลังได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุดถึง 4 รุ่น ประกอบด้วย Mazda2, Mazda3, Mazda CX-3 และ Mazda CX-30 พร้อมคงความเอกลักษณ์ในสไตล์มาสด้า มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ให้พละกำลังแรงแต่ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงรูปลักษณ์ภายในและภายนอกที่ได้รับการตกแต่งพิเศษจากการออกแบบอันสง่างาม ภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ ที่ได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความสปอร์ตดุดันมากยิ่งขึ้น อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense ที่ใส่มาให้อย่างครบครันเป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ตไม่ซ้ำใคร ส่งผลให้เก็บเกี่ยวยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำมีลูกค้ารับรถไปแล้วมากกว่า 1 พันคัน

วันนี้มาสด้าได้ฤกษ์งามยามดีจัดให้สื่อมวลชนได้พิสูจน์สมรรถนะกันอย่างเต็มที่ กับรถยนต์รุ่นพิเศษทั้ง 4 รุ่น รวมทั้งหมด 9 คัน โดยวางรูปแบบการทดสอบการขับขี่บนพื้นฐานและสถานการณ์การใช้งานจริงๆ ทั้งการใช้ความเร็วบนทางด่วน ผนวกกับการจราจรที่คับคั่งตลอดเส้นทาง แม้กระทั่งในเขตชุมชน ตามแหล่งท่องเที่ยว กับเส้นทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่มีความสวยงาม รวมทั้งการจราจรในทุกรูปแบบเฉกเช่นการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่บางแสน จังหวัดชลบุรี รวมระยะทางไปกลับกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสทั้งสมรรถนะและการออกแบบของรถรุ่นนี้อย่างจุใจตลอดทั้งวัน

Advertisement

มาสด้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ Mazda Carbon Editon 2023 มากถึง 4 รุ่น

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่มาสด้าได้เปิดตัวรถมาสด้ารุ่นพิเศษ Carbon Edition ไปเมื่อปลายปีผ่านมา ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ที่บ่งบอกสไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งวัตถุประสงค์ของกิจกรรมทดลองขับครั้งนี้ เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะให้สื่อมวลชนได้สัมผัสถึงความพิเศษของรถมาสด้ารุ่นพิเศษทั้ง 4 รุ่น อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความโดดเด่นด้านการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ ที่มอบความแตกต่างอย่างชัดเจน รวมถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง มอบความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ ระบบความปลอดภัยสุดล้ำ และระบบต่างๆ ที่มอบความเพลิดเพลินไปตลอดเส้นทาง อันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าในการเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่มอบความสุขและสุนทรียภาพในการขับขี่ให้กับลูกค้า วันนี้มีลูกค้าได้รับรถยนต์รุ่นพิเศษทั้ง 4 รุ่นไปครอบครองแล้วมากกว่า 1,100 คัน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ Mazda CX-30 ส่งมอบไปแล้วกว่า 600 คัน ตามมาด้วย Mazda2 จำนวนกว่า 200 คัน Mazda3 จำนวนกว่า 200 คัน และ Mazda CX-3 จำนวน 100 คัน ซึ่งลูกค้าที่ให้ความสนใจรุ่นพิเศษทั้ง 4 รุ่น สามารถจองซื้อได้ทุกโชว์รูมทั่วประเทศ และทางมาสด้ายืนยันพร้อมส่งมอบรถทั้ง 4 รุ่นให้กับลูกค้าได้ทันที”

“ความมุ่งมั่นสูงสุดของมาสด้า คือปรารถนาให้ผู้คนได้รับความสุข ความสนุกสนานจากการขับขี่รถยนต์ โดยเฉพาะความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างรถกับผู้ขับขี่ ที่ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายและมั่นใจ ทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การขับขี่ที่เหนือกว่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์สำคัญของรถยนต์มาสด้า ที่เราเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาโดยยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-Centered Philosophy) รวมถึงความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใครจากการออกแบบภายนอกและภายใน ซึ่งได้ถ่ายทอดมายังรถมาสด้ารุ่นพิเศษ Carbon Edition ด้วยเช่นกัน ซึ่งประกอบด้วยรถรุ่นยอดนิยมถึง 4 รุ่น ได้แก่ Mazda2, Mazda3, Mazda CX-3 และ Mazda CX-30 โดยมาสด้าได้จัดกลุ่มคาราวานทดสอบเป็นรถทั้งหมด 9 คัน ออกเดินทางบนเส้นทางกรุงเทพฯ ไปยังบางแสน จังหวัดชลบุรี มีระยะทางไป-กลับกว่า 200 กม. เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่กันอย่างเต็มที่และไม่ซ้ำแบบใคร” นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวเสริม

มาสด้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ Mazda Carbon Editon 2023 มากถึง 4 รุ่น

สำหรับกิจกรรมทดลองขับในครั้งนี้ คณะฯ ได้นัดพบในช่วงเช้าที่ เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา ก่อนออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังบางแสน จังหวัดชลบุรี ด้วยคาราวานรถมาสด้ารุ่นพิเศษ Carbon Edition ทั้ง 4 รุ่น รวมทั้งหมด 9 คัน ทั้งสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ และ สีเทา แมชชีน เกรย์ ซึ่งเป็น 2 สี ที่มีให้เลือกในรถมาสด้ารุ่นพิเศษ ซึ่งระหว่างเส้นทางการทดสอบนั้น สื่อมวลชนได้สัมผัสกับความทรงพลังของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ของรถยนต์มาสด้ารุ่นต่างๆ ที่ให้สมรรถนะความแรง แต่ประหยัดน้ำมัน โดยมาสด้าได้พัฒนาขึ้นนวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ผนวกกับเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ บอดี้ และแซสซี เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ทุกส่วนทำงานสอดประสานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และมอบความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถให้เป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมกับระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่มาพร้อมกับตัวรถ กับเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense อาทิ ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM เป็นต้น ที่ได้พัฒนาและยกระดับความปลอดภัยของรถมาสด้าทุกรุ่นขึ้นไปอีกขั้น ผสานวิทยาการด้านความปลอดภัยเชิงป้องกัน และลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนถนน ทำให้สามารถคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น ทำให้ขับขี่สนุกเร้าใจในทุกเส้นทางอย่างไร้กังวล พร้อมด้วยระบบสุนทรียภาพครบครันตลอดการเดินทางที่มาพร้อมตัวรถ อาทิ หน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8 นิ้ว พร้อม Center Commander ที่รองรับระบบ Apple CarPlay®  และ Android AutoTM  ระบบเสียง Bose®  รอบทิศทาง ซึ่งทำให้ตลอดการเดินทางเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขอย่างแท้จริง

เมื่อเดินทางไปถึงบางแสน สื่อมวลชนได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันบริเวณริมทะเล พร้อมทั้งยังได้มีโอกาสรีวิวรถกันตามอัธยาศัย ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันอย่างฟรีสไตล์ ซึ่งตลอดระยะทางไปกลับ นอกจากจะได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่และความปลอดภัยของรถมาสด้ารุ่นพิเศษ Carbon Edition ทั้ง 4 รุ่นแล้ว สื่อมวลชนยังได้พบกับความโดดเด่นจากการออกแบบที่มาพร้อมแนวคิด “Unique You” ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน สร้างความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดจากการนำคอนเซ็ปต์สไตล์คาร์บอนมาสร้างแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดภาพลักษณ์ความสปอร์ต เพื่อเพิ่มความหรูหรามีระดับ อาทิ การตกแต่งพิเศษของภายนอก ด้วยกระจกมองข้างสีดำ และล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว ที่ตัดกันอย่างลงตัวกับภายในห้องโดยสาร ที่มาพร้อมความพิเศษกับเบาะนั่งสีแดง Burgundy และตกแต่งภายในด้วยหนังสีดำเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง ที่บ่งบอกสไตล์ของผู้ขับได้อย่างชัดเจน จากการผสมผสานของสีและการตกแต่งต่างๆ นี้ จึงทำให้รถรุ่นนี้ดูสปอร์ตอย่างเด่นชัด และกลายเป็นรถที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ที่มีภาพลักษณ์สปอร์ต รวมถึงถ่ายทอดความสนุกสนานในการขับขี่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจอันเป็นลักษณะเฉพาะของรถยนต์มาสด้าได้อย่างลงตัว

Advertisement

กิจกรรมทดสอบรถในครั้งนี้ สื่อมวลชนไม่เพียงแค่ได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์มาสด้า แต่ยังได้สัมผัสถึงความแตกต่างอย่างลงตัวของการออกแบบของรถมาสด้ารุ่นพิเศษ Carbon Edition กันอย่างเต็มเปี่ยม และเดินทางกลับบ้านกันอย่างสวัสดิภาพพร้อมด้วยรอยยิ้ม
รายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์มาสด้ารุ่นพิเศษ Carbon Edition

มาสด้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ Mazda Carbon Editon 2023 มากถึง 4 รุ่น

  • Mazda2 Carbon Edition รุ่นซีดาน 4 ประตู มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร มาพร้อมความแตกต่างอย่างมีสไตล์ สะท้อนความสปอร์ตไม่ซ้ำใครด้วยกระจกมองข้างสีดำตัดกับโทนสีเข้มภายนอก ภายในตกแต่งพิเศษด้วยเบาะนั่งสีแดง Burgundy ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ด้วย Wireless Apple CarPlay® พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) มอบความสนุกในทุกกิจกรรมและเป็นตัวเองได้อย่างไม่ซ้ำแบบใคร ราคาจำหน่าย 669,000 บาท
  • Mazda2 Carbon Edition Sports รุ่นแฮตซ์แบค 5 ประตู ได้รับการเติมเต็มความสปอร์ตพรีเมี่ยมให้แตกต่างแบบไม่ธรรมดา บอกสไตล์ที่โดดเด่นด้วยกระจกมองข้างสีดำ และภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยเบาะนั่งสีแดง Burgundy มอบความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง และเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่กับ Sports Paddle Shift ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ความสนุกสนานกับความแตกต่างในแบบฉบับที่มีเอกลักษณ์ ราคาจำหน่าย 669,000 บาท

มาสด้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ Mazda Carbon Editon 2023 มากถึง 4 รุ่น

  • Mazda3 Carbon Edition รุ่นซีดาน 4 ประตู มอบความเร้าใจด้วยถ่ายทอดจิตวิญญาณความสปอร์ตของผู้ขับขี่ ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน Skyactiv-G 2.0 ให้พละกำลังสูงถึง 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมันได้ถึง E85 ให้การประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.9 กม./ลิตร* และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับระบบส่งกำลังอัจฉริยะ Skyactiv-drive เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ที่ให้การตอบสนองแม่นยำในทุกรอบความเร็ว พร้อมแมนนวลโหมด Activematic มอบความสนุกเร้าใจอีกระดับ มาพร้อมกับสีภายนอกใหม่ สีเทา โพลี เมทัล เกรย์ เป็นครั้งแรก โดยการตกแต่งตัดกับสีโทนเข้ม กระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว ตอบโจทย์ทุกความสปอร์ต สง่างาม เรียบหรูทุกมุมมอง ภายในตกแต่งเป็นพิเศษด้วยหนังสีดำและด้ายสีแดง พร้อมเบาะหนังสีแดง Burgundy และมอบความมั่นใจให้ทุกการเดินทางด้วยระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง ราคาจำหน่าย 1,210,000 บาท
  • Mazda3 Carbon Edition Sports รุ่นฟาสต์แบค 5 ประตู ผสานความแตกต่างด้วยดีไซน์สะกดสายตาทุกมุมมอง มาพร้อมกระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว ตัดกับสีภายนอก สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ มอบความโดดเด่นที่เหนือระดับกับหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารตกแต่งเป็นพิเศษด้วยหนังสีดำและด้ายสีแดง พร้อมเบาะหนังสีแดง Burgundy เพิ่มความพิเศษในสไตล์สปอร์ตพรีเมี่ยมได้อย่างลงตัว ราคาจำหน่าย 1,210,000 บาท

มาสด้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ Mazda Carbon Editon 2023 มากถึง 4 รุ่น

  • Mazda CX-3 Carbon Edition เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินขนาด 2.0 ลิตร แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานอัจฉริยะ i-Stop (Idling Stop System) SSkyactiv-drive เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ให้อารมณ์การตอบสนองที่แม่นยำเฉกเช่นเดียวกับเกียร์ธรรมดา สัมผัสความแรงที่มาพร้อมความประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังมีสวิตช์ Driving Selection สามารถเลือกขับขี่ในโหมด Sport เมื่อต้องการเร่งแซง หรือให้อัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นในรอบเครื่องยนต์ที่สูง มอบความสนุกเร้าใจเสมือนขับขี่ด้วยเกียร์ธรรมดา โดดเด่นด้วยการตัดโทนสีเข้มกับกระจังหน้าสีดำ กระจกมองข้างสีดำ และล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว มอบความเหนือระดับด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า พร้อมเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ดิจิตอลได้อย่างอิสระกับ Wireless Apple CarPlay® พร้อมด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) พร้อมเบาะไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง มอบความสะดวกสบายไปตลอดการเดินทาง ราคาจำหน่าย 904,000 บาท

มาสด้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ Mazda Carbon Editon 2023 มากถึง 4 รุ่น

  • มาสด้า CX-30 Carbon Edition มาพร้อมความโดดเด่นด้วยสีโทนเข้ม ตัดกับกระจกมองข้างสีดำที่มีเอกลักษณ์พิเศษ ภายใต้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร Skyactiv-G ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมและคล่องตัวทุกการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยความแรงสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างแม่นยำในทุกรอบความเร็ว ให้การขับขี่สนุกในทุกเส้นทางและทุกมิติของการใช้งาน ล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสารประณีตพิถีพิถันทุกรายละเอียด สะท้อนความพรีเมี่ยมด้วยเบาะหนังสีแดง Burgundy ตกแต่งภายในด้วยหนังสีดำและด้ายสีแดง มอบความเพลิดเพลินไปตลอดการเดินทางกับระบบเสียง Bose®  รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิตและมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้มีความหมายมากขึ้นกว่าเดิม ราคาจำหน่าย 1,211,000 บาท

นี่คือบทพิสูจน์สมรรถนะและการเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล หรือการจราจรแบบไหน เส้นทางจะเป็นอย่างไร นั่นไม่ใช่อุปสรรคสำหรับรถยนต์มาสด้า ทุกๆ การเดินทาง ความสนุกสนานในการขับขี่ยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากการเดินทางไปทั่วโลก และวันนี้มีลูกค้าในประเทศไทยที่เป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟและภายใต้การแบบอันสง่างามจาก โคโดะ ดีไซน์ มากกว่า 350,000 คัน นี่คือเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่นทุ่มเท เพื่อพัฒนารถยนต์และเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำอยู่ตลอดเวลา ถ้าอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับครอบครัวมาสด้าลองไปชมและลองขับคันจริงได้ที่โชว์รูมมาสด้าใกล้บ้าน เพราะวันนี้มาสด้าเปลี่ยนไปในทุกๆ ฟังก์ชั่น ลองเดินเข้าไปที่โชว์รูมคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่วินาทีแรกที่เดินเข้าไป จนถึงกระบวนการต้อนรับ การทำงาน สิ่งอำนวยความสะดวก และสถานที่ที่มีความหรูหรา โอ่อ่า แต่อบอุ่น เป็นกันเอง ลองไปพิสูจน์กันครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก mazda.co.th

User Rating: 5 ( 1 votes)