การขับขี่บิ๊กไบค์เวลาฝนตกนั้น เรียกว่าเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆเลยทีเดียว ขนาดรถยนต์มี 4 ล้อในการทรงตัวยังเกิดอุบัติเหตุได้ แล้วนี่ Bigbike มีแค่สองล้อเท่านั้น การทรงตัวยอมแตกต่างกว่าแน่นอนยิ่งเป็นเวลาฝนตกที่ขับขี่บนทางที่ลาดชันแล้วด้วยล่ะก็ยิ่งอันตรายไปใหญ่ ทำให้การจอดหรือการเบรคนั้น อาจจะเกิดอันตรายได้เพราะว่าถนนลื่น ยิ่งในเวลาที่ต้องตั้งขาตั้ง เวลาฝนตก หากพื้นเป็นทางลาดเอียง หรือพื้นไม่แน่นอพอ อาจจะทำให้รถล้มได้ ด้วยเช่นกัน
ที่สำคัญหากเกิดเหตุการณ์ที่ขับขี่บิ๊กไบค์ขณะฝนตกแล้วเกิดมีใครล้มหรือเป็นอันตรายขึ้นมา ควรสังเกตทางที่เราวิ่งด้วยว่าจุดนั้นควรจะจอดแล้วสามารถลงไปช่วยได้เลยไหม เช่นหากเกิดอันตรายบริเวณทางโค้ง คันหน้าจำเป็นที่จะต้องขับขี่ให้เลยโค้งไปก่อน อีกทั้งทางแยกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ปลายสะพานก็เช่นกัน แล้วเราจะทำอย่างไรให้ปลอดภัยเมือขับขี่ Bigbike ขณะที่ฝนตกเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเดี๋ยวมาดูกันครับ
12วิธี การขับขี่ Bigbike เวลาฝนตก
1.หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในขณะที่ ฝนตก ควรแสดงสัญลักษณ์มือให้คันรถคันหลังได้เห็นว่าข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น จากนั้นให้ถอดหมวกกันน็อคผู้ได้รับอุบัติเหตุออก แล้วหาคนช่วยให้ได้รับการปฐมพยาบาลโดยเร็วที่สุด
2.ควรแต่งกายให้ครบครัน อุปกรณ์ต่างๆต้องครบ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเอาไว้ก่อน อย่างน้อยหากเรามีการเซฟตี้ ความปลอดภัยของเราก็จะมีมากขึ้น และได้รับอันตรายน้อยลง
3.หากเลี่ยงการขับขี่ขณะที่ฝนตกได้ ก็ควรที่จะเลี่ยง เพราะว่านอกจากจะเกิดอันตรายได้แล้ว อาจจะทำให้ผู้ขับขี่ป่วยหรือไม่สบายตามมา และที่สำคัญ Bigbike ของคุณก็จะมีปัญหาจากการโดนน้ำด้วยครับ แถมยังสกปรกเป็นคราบอีกด้วย
4.ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ควรเช็คบิ๊กไบค์ทุกครั้งก่อนการเดินทาง ควรเช็คสภาพรถให้พร้อมการใช้งาน เพราะว่าหากรถไม่พร้อมใช้งานแล้ว เกิดมาเจ๊งตอนฝนตกด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ลำบากไปกันใหญ่ ไหนจะฝนตกไหนจะต้องซ่อมรถอีก
5.ทำความสะอาด ชิลด์หมวกกันน๊อก โดยใช้น้ำยาเคลือบกระจก เพราะเวลาฝนตกนั้น จะทำให้เกิดความสกปรกและทำให้มีคราบติดบริเวณกระจก แต่การที่ใช้น้ำยาเช็ดกระจกมาทำความสะอาดและเคลือบนั้น จะทำให้น้ำไม่เกาะชิลด์หมวกกันน๊อค ทำให้คุณเห็นทางได้ชัดเจนกว่าเดิม
6.เช็คยางล้อรถให้ดี เพราะว่า หากดอกยางสึก หรือเกิดไม่ยึดเกาะถนนขึ้นมา เวลาที่ฝนตกแล้ว อาจจะทำให้ล้อลื่นได้ ดังนั้นคุณควรจะเปลี่ยนยางใหม่ เพื่อให้ยางได้รีดน้ำและสามารถลุยฝนได้ดีกว่าเดิม
7.เมื่อต้องเจอกับสภาพถนนที่ฝนตกแล้ว ควรระวังการขับขี่ให้ดี เพราะผู้ขับขี่ bigbike จะต้องเจอกับอาการเหินน้ำได้ เนื่องจากยางลอยไม่แตะพื้นถนน ซึ่งอาจจะทำให้เสียหลัก ทำให้คุณควบคุมทิศทางในการขับขี่ลดลง ดังนั้นไม่ควรใช้ความเร็วในกาขับขี่ Bigbike ขณะที่ฝนตกเด็ดขาด
8.ควรใช้ไฟต่ำ ในขณะที่ขับขี่ เวลาฝนตกเท่านั้น เพราะการใช้ไฟสูงจะทำให้แสงสะท้อนกับถนนที่เปียกไปด้วยน้ำ และมองเส้นทางได้ยาก และทุกครั้งที่ขับขี่ขณะฝนตกแล้วต้องการเลี้ยว ควรเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้า 10-15 วินาที แล้วใช้ความเร็วต่ำในการเลี้ยว
9.ไม่ควรใช้ไฟฉุกเฉินขณะฝนตก เพราะอาจจะทำให้รถคันอื่นนั้นลายตาได้จากแสงสะท้อนของไฟ และอาจจะทำให้รถคันอื่นนั้น แยกแยะไม่ได้ว่า คุณเปิดไฟเลี้ยวหรือไฟฉุกเฉิน หากขับขี่กันมาเป็นทริปด้วยแล้ว ก็อาจจะต้องเปิดหลายคน ทำให้เกิดการสับสนได้
10.ควรสังเกตสัญลักษณ์มือให้ดี เพราะว่าการขับขี่บิ๊กไบค์ในขณะที่ถนนเปียกนั้น อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ และอาจจะสังเกตสัญลักษณ์ได้น้อยลง ดังนั้น ควรระมัดระวังและสังเกตสัญญาณมือให้ดีๆ อีกทั้งสัญญาณไฟรถด้วย เพราะว่าในขณะที่ฝนตกนั้นอาจะทำให้มองลำบาก จึงควรใช้การสังเกตให้มากที่สุด
11.ระยะห่างในการขับขี่ ในขณะที่ฝนตกนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ควรมีระยะห่างมากกว่าการขับขี่ในสภาพอากาศปกติ เพราะว่าหากมีการเบรคเกิดขึ้นมาในขณะที่ฝนตก อาจจะทำให้การเบรคนั้นช้าลง เพราะว่าถนนลื่น หากเบรคเร็วเกินไป อาจจะทำให้รถเสียหลักได้ ดังนั้น ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 คันรถ
12.ไม่ควรขับขี่แซงกันขณะที่ฝนตก เพราะว่าแค่ฝนตกถนนก็ลื่นและไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว การที่คุณนั้นมาขับขี่แซงกันไปมาอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้มากมาย ยิ่งแซงบริเวณทางโค้งด้วยแล้วยิ่งไม่ควรทำเด็ดขาดเลยทีเดียว อาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
และนี่ก็คือ 12 วิธีที่จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากกว่าเดิมแล้วครับ ลองเอาไปใช้กันได้ สำหรับคนที่จะเดินทางด้วยบิ๊กไบค์ การมีความรู้และศึกษาข้อมูลก่อนการกับขี่เมื่อเจอสภาพอากาศต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ของตัวคุณและและผู้อื่น ที่สำคัญ ยังทำให้ Bigbike ของคุณนั้นใช้งานได้ยาวนานขึ้น หากคุณนั้นป้องกันและเซฟตี้ทุกครั้งก่อนการเดินทางก็ไม่ต้องกังวลเมื่อเจอกับสภาพอากาศแย่ๆแล้วครับ
Review Overview
ให้คะแแนนบทความนี้