รุ่นและราคามอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ราคารถยนต์ในตลาดรถ 2024

รุ่นและราคา Ducati Scrambler มอเตอร์ไซค์วิบากไซส์เล็กสไตล์อิตาลี

รุ่นและราคา Ducati Scrambler มอเตอร์ไซค์วิบากไซส์เล็กสไตล์อิตาลี

สุดยอดบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ Ducati Scrambler (ดูคาติ สแครมเบลอร์) ที่ทางดูคาติได้ส่งมาตีตลาดรถมอเตอร์ไซค์วิบากไซส์เล็ก โดยมาพร้อมความหล่อล่ำ สมาร์ท ดูบึกบึนตั้งแต่ภายนอก สามารถเสริมเติมแต่งความล้ำได้อย่างหลากหลาย โดยได้มีสื่อต่างๆหลายแห่งได้เปิดราคากันมาแล้วครับ ว่าบิ๊กไบค์รุ่นนี้มีราคาไม่เกินสี่แสนบาทเท่านั้นครับ ทางบริษัทดูคาติประเทศไทยที่เป็นตัวแทนจำหน่ายบิ๊กไบค์ของดูคาติที่ได้นำเข้ามาจากอิตาลี ก็ได้ทำการเปิดตัวเจ้าบิ๊กไบค์รุ่นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปที่ผ่านมานั่นเอง

โดย Ducati Scrambler วิบากรุ่นนี้เป็นมอเตอร์ไซค์ที่สิงห์นักบิดทั้งหลายกำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอยกันอย่างใจจรดใจจ่อ แม้ว่าจะเป็นเพียงมอเตอร์ไซค์วิบากไซส์เล็กก็ตาม แต่สไตล์ของมันช่างเร้าใจและสะดุดตานักบิดทั้งหลายเป็นยิ่งนัก ที่สำคัญราคาก็โดนใจเป็นอย่างมาก โดยรายละเอียดต่างๆนั้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่า Ducati Scrambler เป็นชื่อรุ่นที่ทางดูคาติได้เคยนำมาใช้เมื่อปี 1962 โดยนำมาใช้ตั้งในชื่อมอเตอร์ไซค์แนววิบากเช่นกัน และปัจจุบันนี้ก็ได้มีการโมดิฟายด์ใหม่ และได้มีการผสมผสานความคลาสสิคและความเท่ในสไตล์โมตาร์ดเข้ามาผสมผสานได้อย่างสง่างาม และนี่แหละครับคือสุดยอดมอเตอร์ไซค์ที่คุณจะต้องประทับใจ

Advertisement

เฉดสีและราคา Ducati Scrambler

รุ่นแรกคือ Ducati Scrambler รุ่น ICON เรียกว่าเป็นคลาสสิคไบค์ ที่มีความเป็นเบสิกมากๆ มีดีไซน์ที่เรียบหรูเป็นอย่างมาก โดยจะเน้นความเท่เป็นหลักใครที่ชอบแต่งบิ๊กไบค์ รุ่นไอคอนเหมาะมากๆเลยครับ โดยมีสองเฉดสีให้เลือกคือ สีเหลืองและสีแดงครับ โดยจะเป็นการไล่เฉดสีบริเวณตัวถัง บังโคลนหน้าและกรอบหลัง เรียกว่าสวยงามๆมากๆ โดยราคา ดูคาติ สแครมเบลอร์ รุ่นไอคอนสีแดง ราคาจะอยู่ที่ 369,900 บาท ส่วนสีเหลืองจะแพงขึ้นมานิดที่ 374,900 บาท เท่านั้นครับ โดยรุ่นนี้จะมีราคาถูกที่สุดในสี่รุ่น

สำหรับดีไซน์ภายนอกของ Ducati Scrambler รุ่น ICON ออกแบบมาให้มีไฟหน้าแบบกลม และไฟเลี้ยวสุดเท่ แฮนด์บาร์มีขนาดยาว ดูสตรีท กระจกมองข้างอยู่ในตำแหน่งที่ลงตัว ล้อหน้าออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่และพร้อมลุย ตัวถังมีความคลาสสิค เหมาะสำหรับเป็นตัวเลือกของคนชอบความเท่ เบาะนั่งมีความยาวที่พอดี  เครื่องยนต์จัดวางได้อย่างสวยงาม เป็นบิ๊กไบค์ที่ตอบโจทย์คนที่ชอบความน่าตื่นเต้นได้เป็นอย่างดี มีระยะฐานล้อที่ 1,445 mm (56.9 in) สามารถจุน้ำมันได้ 13.5 l – 3.57 gallons (US) เลยนะครับ

รุ่นที่สองคือ Ducati Scrambler รุ่น URBAN ENDURO สำหรับรุ่นนี้นะครับ ก็เป็นการผสมผสานบิ๊กไบค์สไตล์เอ็นดูโร่ได้อย่างลงตัว ใครที่ชอบความเป็นวิบาก รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่าง โดยรุ่นนี้จะใช้เป็นตัวถังสีเขียวนะครับ เป็นการเพิ่มความเข้มได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นการใช้สีเขียวไวลด์กรีนเข้ามาเสริมความคลาสสิค และตัดด้วยเบาะนั่งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เป็นสีน้ำตาลเข้มที่ตอบโจทย์ความเข้มได้อย่างเหนือชั้น โดยราคาดูคาติ สแครมเบลอร์ รุ่นเออร์บาน เอ็นดูโร่ จะอยู่ที่ 419,900 บาท

การออกแบบภายนอกของ Ducati Scrambler รุ่น URBAN ENDURO เน้นความดุดันเป็นหลัก ด้านหน้าเน้นความเป็นสตรีท ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าหรือไฟเลี้ยว มาตรวัดความเร็วโดดเด่นและทันสมัย ตัวถังดีไซน์โค้งมนได้รูป สวยงามและมีระดับ เบาะนั่งออกแบบมาให้มีกลิ่นอายความเป็นสปอร์ต โดยใช้เป็นสีน้ำตาลเข้มเติมเต็มความดุดันให้โฉบเฉี่ยวกว่าเดิม ไฟท้ายดีไซน์คลาสสิคตัดกับไฟเลี้ยวได้อย่างลงตัว ท่อไอเสียโค้งมนได้รูปเหมาะเป็นเอ็นดูโร่ตัวจริง โดยมีมีน้ำหนักแห้งอยู่ที่ 176 kg (388 lb) มีน้ำหนักเปียกอยู่ที่ 192 kg (423 lb) เท่านั้นครับ

Advertisement

รุ่นที่สามคือ Ducati Scrambler รุ่น CLASSIC เรียกว่าคลาสสิคจริงๆครับสำหรับรุ่นนี้ สำหรับรุ่นคลาสสิคจะเน้นความวินเทจเป็นหลัก โดยการเน้นตัวถังสีส้มเพิ่มความทันสมัยและโมเดิร์น ตัดกับเบาะหนังสีน้ำตาล เรียกว่าสวยงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ ดูคาติ สแครมเบลอร์ คลาสสิค มีราคา 419,900 บาท

ด้านการดีไซน์ Ducati Scrambler รุ่น CLASSIC ได้มีการผสมผสานความเท่เข้าไป โดยออกแบบมาให้มีวงล้อที่ใหญ่ขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความเป็นสแครมเบลอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบและพร้อมลุยทุกเส้นทาง ตัวถังดีไซน์สวยงาม โค้งมน เบาะนั่งใช้แบบซิงเกิ้ลขนาดยาว ออกแบบมาให้นั่งสบายรองรับทุกสรีระ มาตราวัดความเร็วคลาสสิคสมชื่อแต่ทันสมัย ใช้งานได้ทุกฟังก์ชั่น เป็นบิ๊กไบค์ที่มีความสูงของเบาะอยู่ที่ 790 mm (31.1 in) – low seat 770 mm (30.3 in) และมีความสูงตั้งแต่หัวจรดพื้นที่ 1,150 mm (45.3 in) เท่านั้นครับ

รุ่นที่สี่ Ducati Scrambler รุ่น FULL THROTTLE เน้นความเป็นสปอร์ตเป็นหลัก โดยเติมเต็มความเข้มด้วยเฉดสีดำ ทำให้มีความโฉบเฉี่ยวและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับใช้เส้นสายความเท่ของสีเหลืองเข้ามาเติมเต็มความพรีเมี่ยม ตัดกับเบาะนั่งดีไซน์พิเศษ กึ่งสปอร์ตเรียกว่าเป็นการผสมผสานความคลาสสิคและความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ดูคาติ สแครมเบลอร์ รุ่น ฟูล ธร็อตเทิ้ล มีราคา 419,900 บาท

การออกแบบ Ducati Scrambler รุ่น FULL THROTTLE เน้นความเข้มอย่างเป็นทางการ ออกแบบมาให้มีความทันสมัยผสมผสานความโฉบเฉี่ยวและพรีเมี่ยม ดูสปอร์ตกึ่งคลาสสิค เบาะนั่งเน้นความเป็นสปอร์ต ตัวถังโค้งมนท้าทายทุกสายตา แม็กซ์ก็ทันสมัย ใช้เป็นแบบอัลลอย 10ก้าน เพิ่มความได้อย่างเต็มที่ มิติภายนอกมีความยาวที่ 2,100 – 2,165 mm (82.7 – 85.2 in)  และมีระยะเทรลอยู่ที่ 112 mm (4.4 in) เท่านั้นครับ ต้องบอกได้ว่าทั้งสี่รุ่นก็แตกต่างกันออกไป มีสไตล์และดีไซน์ที่บ่งบอกความแตกต่างได้อย่างสะดุดตาเลยทีเดียว

สมรรถนะความปลอดภัย Ducati Scrambler

สำหรับเครื่องยนต์ Ducati Scrambler ก็ได้ใช้เหมือนกันหมดทุกรุ่นนะครับ เป็นเครื่องยนต์แอลทวิน Desmodromic distribution สองวาล์วต่อกระบอกสูบ พร้อมระบายความร้อยด้วยอากาศ มีปริมาตรกระบอกสูบที่ 803 ซีซี มีระยะของการชักกระบอกสูบที่ 88 x 66 มม. มีอัตราการอัดที่ 11:1 สร้างกำลังสูงสุดได้ที่ 55 kW (75 hp) @ 8,250 rpm และมีแรงบิดสูงสุดที่ 68 Nm (50 lb-ft) @ 5,750 rpm จ่ายเชื้อเพลิงผ่านระบบ Electronic fuel injection, 50 mm throttle body การันตีด้วย มาตรฐาน Euro 3 ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 speed โดยมีอัตราการทดเกียร์ที่ 1=32/13 2=30/18 3=28/21 4=26/23 5=22/22 6=24/26 ผสานการทำงานกับระบบคลัทช์แบบ APTC wet multiplate with mechanical control ได้อย่างยอดเยี่ยม

มาดูระบบความปลอดภัย Ducati Scrambler กันบ้างนะครับ แข็งแรงด้วยเฟรมแบบ Tubular steel Trellis frame อกแบบมาให้ป้องกันเครื่องยนต์เป็นพิเศษ ช่วงล่างแข็งแรงพร้อมลุยทุกเส้นทางด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside down Kayaba 41 mm fork และ ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Kayaba rear shock, pre-load adjustable ที่ออกแบบมาให้มีการทรงตัวที่ดี และพร้อมลุยไปทุกเส้นทางอย่างน่าประทับใจ เซฟตี้ทุกเส้นทางด้วยระบบเบรคหน้าแบบ 330 mm disc, radial 4-piston calliper with ABS as standard equipment ที่ออกแบบมาให้เบรคได้อย่างนุ่มนวล และมีระบบเบรกหลังแบบ 245 mm disc, 1-piston floating calliper with ABS as standard equipment ที่เพิ่มความกระชับในการเบรคและเพิ่มความปลอดภัยในการหยุดรถของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปเลยนะครับว่าใครที่กำลังมองหาบิ๊กไบค์ซักคัน เพื่อตอบโจทย์ความมันส์ในการใช้ชีวิตบนท้องถนน ถ้าคุณเป็นวัยรุ่นยุคใหม่ที่ชอบความแตกต่างแนะนำรุ่น ดูคาติ สแครมเบลอร์ รุ่น ไอคอน แต่ถ้าชอบลุยชอบความเท่ ขอแนะนำรุ่น เออร์บาน เอ็นดูโร่ แต่ถ้าชอบความเรียบง่ายคลาสสิคแต่มีสไตล์ ต้อง ดูคาติ สแครมเบลอร์ รุ่น คลาสสิค สมชื่อ ส่วนใครที่ชอบความเท่ ความเข้มและความโดดเด่น ต้องรุ่นฟูล ธร็อตเทิลเท่านั้น และนี่ก็คือ Ducati Scrambler ทั้งสี่รุ่นที่ออกมาตอบโจทย์คนไทยได้เป็นอย่างดี

รูปภาพทั้งหมด

รวมรูปภาพ Ducati Scrambler 4แบบ 4สไตล์

Review Overview

ให้คะแนนบทความนี้

User Rating: 4.93 ( 2 votes)
Exit mobile version