รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่โด่งดัง ล้วนมีตำนานเป็นของตัวเอง สำหรับ Honda Goldwing ก็เป็นหนึ่งในตำนาน ราชาแห่งมอเตอร์ไซค์ (The King of Motorcycle) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 4 ทศวรรษ เรียกได้ว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ แต่ก็ยังคงความเป็นที่สุดแห่งราชามอเตอร์ไซค์ไว้อย่างเหนียวแน่น และนี่ก็ถือว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะ Honda Goldwing ได้ปรับโฉมใหม่ทั้งคันในรอบ 17 ปี! พร้อมให้คุณได้สัมผัสความยิ่งใหญ่แล้ว แต่ก่อนที่เราจะพาคุณไปพบกับ All New Honda Goldwing โฉมใหม่ อยากพาย้อนไปดูวิวัฒนาการที่ผ่านมาของราชารถมอเตอร์ไซค์คันนี้กันก่อน
Honda M1, First Goldwing ปี 1972
สำหรับ Honda Goldwing รุ่นแรกนั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ชื่อโครงการว่า M1 ตั้งแต่ปี 1970 โดยนาย โซอิชิโร่ อิริมาจิ หัวหน้านักออกแบบผู้เคยมีผลงานการออกแบบเครื่องยนต์แบบ 5 และ 6 สูบ โดยโครงการนี้ต้องการที่จะพัฒนารถมอเตอร์ไซค์สไตล์ Grand Touring จนเกิดมาเป็น Honda M1 ซึ่งมีฟังก์ชันที่โดดเด่นมากในยุคนั้น นั่นก็คือ เครื่องยนต์ 6 สูบแบบนอน, การระบายความร้อนด้วยน้ำ, ขับด้วยเพลาขับ และยังเป็นต้นแบบในการพัฒนา Honda Goldwing รุ่นต่อ ๆ มา
GL1000 Honda Goldwing ปี 1975
ถือว่าเป็นปีที่คนรู้จัก Honda Goldwing อย่างแท้จริง เพราะเป็นการเริ่มต้นยุคแห่งการเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ซึ่ง GL1000 Honda Goldwing ก็เป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นบุกเบิกการเดินทางในสมัยนั้น โดยมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ขนาด 1,000 ซีซี
GL1100 Honda Goldwing ปี 1980
ในปี 1980 ถือกำเนิด GL1100 Honda Goldwing ขึ้น ซึ่งได้เพิ่มขนาดเครื่องยนต์ขึ้นอีก 10% จากรุ่นเดิม ถูกพัฒนาโดยเน้นในส่วนของแรงบิดของรถมอเตอร์ไซค์ และอีกหนึ่งความโดดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ การใช้ช่วงล่างแบบ Air – Assisted Suspension ซึ่งช่วยให้การเดินทางมีความนุ่มนวลมากขึ้น นอกจากนั้นมีการปรับฐานล้อให้ยาวขึ้นเพื่อให้การนั่งขับขี่สบายมากกว่าเดิม และในรุ่นนี้เองที่ชัดเจนในการออกแบบให้คนรู้จัก Honda Goldwing ในฐานะรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดแฟร์ริ่งเต็มตัว, กระเป๋าหลัง, ที่นั่งมีส่วนรับช่วงสะโพกเพื่อให้นั่งสบาย และมีระบบเครื่องเสียงอีกด้วย
GL1100 Honda Goldwing Aspencade ปี 1982
สำหรับ GL1100 Honda Goldwing Aspencade นั้น มาในคอนเซ็ปต์ Luxury Touring with the Aspencade ที่พร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ LCD, วิทยุ, ระบบปรับอากาศ แต่ในส่วนของเครื่องยนต์ยังคงไว้เช่นเดิม
GL1200 Honda Goldwing Aspencade ปี 1984
ในปี 1984 นี้ เครื่องยนต์ของ Honda Goldwing ถูกปรับให้มีขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ซีซี ทำให้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม แรงบิดดีในรอบต่ำ ส่งผลให้รถมอเตอร์ไซค์ GL1200 Honda Goldwing Aspencade รุ่นนี้เป็นราชาของมอเตอร์ไซค์ของรถในคลาสเดียวกันในปีนั้น
GL1500 Honda Goldwing ปี 1988
หลังจากที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในปี 1988 Honda Goldwing ก็เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้นคือ 1,500 ซีซี และยังเป็นเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ ซึ่งถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลในทุกการเดินทาง เสียงเครื่องยนต์เงียบที่สุด และมีสมรรถนะสุดยอดเยี่ยม
New Goldwing Project Development Team ปี 1993
ในปี 1993 นี้ ถือว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Honda Goldwing เพราะมีการเปลี่ยนทีมพัฒนา โดยครั้งนี้ได้หัวหน้าทีมจากกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตไบค์อย่าง นาย มาซาโนริ อาโอกิ มาเป็นผู้นำ ซึ่งหลักในการทำงานเพื่อจะพัฒนาเจ้า Honda Goldwing ของ มาซาโนริ อาโอกิ ก็คือการทำให้รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ขับขี่ได้สนุก ให้ผู้ขับขี่และรถมอเตอร์ไซค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น นอกจากนั้นในส่วนของเครื่องยนต์ก็มีการวางแผนให้อัพขึ้นไปถึง 2,000 ซีซี
Goldwing 20TH Anniversary ปี 1995
ปีแห่งการฉลองครบรอบ 20 ปี ของ Honda Goldwing มีการออกรถมอเตอร์ไซค์ออกมาเพื่อเป็นที่ระลึกนี้ถึง 3 คันด้วยกัน และยังตีพิมพ์หนังสือฉบับพิเศษที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของรถมอเตอร์ไซค์ Honda Goldwing
GL1800 Honda Goldwing ปี 2001
Honda Goldwing กลับมาอีกครั้งและมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,800 ซีซี ที่มีกำลังเพิ่มสูงขึ้นจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจน นอกจากนั้นก่อนที่จะพัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์มาเป็น GL1800 Honda Goldwing ทาง ฮอนด้า ได้มีการจดสิทธิบัตรนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีไม่น้อยกว่า 20 นวัตกรรมที่รวมไว้ในรถมอเตอร์ไซค์สุดหรูหราคันนี้
GL1800 Honda Goldwing Airbag Added ปี 2006
ปี 2006 ฮอนด้า ได้สร้างความแตกต่างให้รถมอเตอร์ไซค์ Honda Goldwing เหนือชั้นขึ้นไปอีกด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัยเป็นครั้งแรกสำหรับรถมอเตอร์ไซค์! ยิ่งไปกว่านั้นมีการเพิ่มระบบนำทางลงไปในระบบเครื่องเสียงอีกด้วย
Honda Goldwing Upgrade ปี 2012
Honda Goldwing ในปี 2012 นี้ ถูกพัฒนาและปรับลุคใหม่เนื่องจากย้ายโรงงานการผลิตกลับไปที่ คุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น และนับว่าเป็นต้นแบบในการพัฒนาต่อยอดของรุ่นอื่น ๆ ในหลายปีถัดมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนฟังก์ชันของ Honda Goldwing Upgrade นั้นมีช่องใส่ USB สำหรับ MP3, iPod และ Navi PC Link
All New Honda Goldwing ปี 2018
และแล้วก็มาถึง Honda Goldwing รุ่นใหม่ล่าสุดพระเอกของเราในวันนี้ All New Honda Goldwing ซึ่งถือว่าเป็นก้าวใหม่ที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก กับการเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่พร้อมพัฒนาแนวคิดด้านวิศวกรรมยานยนต์ การควบคุม เทคโนโลยี สมรรถนะ และความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่จากที่กล่าวมายังเป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น เพราะต่อจากนี้ไปเราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ All New Honda Goldwing กันแบบเจาะลึกทั้งด้านดีไซน์และเทคโนโลยี
All New Design and Engineering
สำหรับ All New Honda Goldwing โมเดลปี 2018 นี้ ถูกออกแบบมาใหม่ให้มีรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และหรูหรามากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย นอกจากนั้นยังพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่โดยทำให้มีน้ำหนักที่เบาลงแต่กลับให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้น ปรับปรุงจุดศูนย์ถ่วงให้ดีขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์ตอบสนองและมีอัตราเร่งที่ดีขึ้น นอกจากนั้นก็ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกมากมาย ตามไปดูกัน
- เครื่องยนต์รุ่นใหม่ใช้ลูกสูบอะลูมิเนียม และมีข้อเหวี่ยงที่สั้นลง ทำให้เครื่องยนต์มีขนาดเล็กมากขึ้น
- ออกแบบเฟรม สวิงอาร์ม และ Suspension ใหม่ ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักรวมลดลงถึง 40 กิโลกรัม ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น
- บังลมหน้าออกแบบมาใหม่ให้ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมด สามารถปรับระดับขึ้น – ลง ได้ถึง 4.9 นิ้ว และยังเป็นระบบจดจำการตั้งค่าใช้งานครั้งล่าสุดให้โดยอัตโนมัติ
- เครื่องยนต์ 6 สูบแบบแนวนอน ที่ออกแบบช่วงชักใหม่ให้ปริมาณกระบอกสูบสูงขึ้นเป็น 1,833 ซีซี
- เป็น Honda Goldwing รุ่นแรกที่ออกแบบเครื่องยนต์ให้มี 4 วาวล์ต่อ 1 ลูกสูบ โดยระบบวาวล์มีสมรรถนะสูงแบบ Unicam
- ระบบกันสั่นสะเทือนหน้าใหม่แบบปีกนกคู่ ให้สมรรถนะในการซับแรงกระแทกได้ดีกว่าเดิม ช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการขับขี่เป็นอย่างดี
- เปลี่ยนระบบแกนโช้กอัพคู่เป็นกระเดื่องคู่รูปตัว A ทำให้สามารถขยับตำแหน่งของผู้ขับขี่และเครื่องยนต์ไปด้านหน้ามากขึ้น ช่วยให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายกว่าเดิม
- ใช้ระบบเกียร์ Dual – Clutch Transmission (DCT) คลัชท์คู่ ความเร็ว 7 สปีด ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพราะระบบจะทำงานแบบอัตโนมัติปรับตำแหน่งเกียร์ขึ้น – ลง ได้อย่างนิ่มนวลและเหมาะสม
- มีระบบควบคุมความเร็วต่ำพิเศษหรือที่เรียกว่า Walking ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าจอดและออกจากที่จอดรถ
- ระบบชุดควบคุมคันเร่งไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับระบบควบคุมแรงบิด Honda Selectable Torque Control (HSTC) ช่วยให้ควบคุมคันเร่งได้อย่างแม่นยำ
- สะดวกสบายไปกับช่องใส่สัมภาระขนาดใหญ่ และ Top Box ที่สามารถใส่หมวกกันน๊อกแบบ Full Frame ได้ถึง 2 ใบ
- กล่องเก็บสัมภาระด้านข้างขนาด 110 ลิตร
- ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าในการเปิด – ปิด และสะดวกขึ้นไปอีกด้วยการใช้รีโมท Smart Key ในการล็อกและปลดล็อก
- ครั้งแรกของ Apple CarPlayTM ในรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อเข้าถึง Apple Map (ระบบยังไม่รองรับในบางประเทศ), Apple Music รวมไปถึงการพยากรณ์อากาศ เพลย์ลิสต์ และหมายเลขโทรศัพท์
- สื่อสารได้สะดวกและง่ายขึ้นด้วยชุดหูฟังไร้สายที่รองรับ Bluetooth
- สนุกกับการขับขี่แบบไม่ต้องเป็นกังวลไปกับหน้าจอ LCD/TFT ขนาดใหญ่ 7 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลสำคัญของรถ
และสีของ All New Honda Goldwing โมเดล 2018 นี้มีมาให้เลือกถึง 3 สีสุดหรูหราตามนี้เลย
- Honda Goldwing สี Candy Ardent Red (Red)
- Honda Goldwing สี Pearl Hawkseye Blue (BLU)
- Honda Goldwing สี Candy Ardent Red (R – B)
ติดตามดูวิวัฒนาการของ Honda Goldwing กันมาตั้งแต่ต้นจนจบ คงรู้กันแล้วว่าตลอดเวลากว่า 40 ปีนั้น Honda Goldwing ไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาเพื่อความเป็นราชาแห่งมอเตอร์ไซค์ ทั้งเครื่องยนต์และเทคโนโลยีที่ไม่เป็นสองรองใคร ถ้าอยากไปสัมผัสตัวจริงและชมเทคโนโลยีสุดล้ำของ All New Honda Goldwing ก็อย่ารอช้า พุ่งตัวไปเจอกันได้ Honda BigWing ทุกสาขา
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :
http://world.honda.com/GoldWing/history/