รุ่นและราคามอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ราคารถยนต์ในตลาดรถ 2024

วิธีการเตรียมตัวสอบใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ กับข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้

วิธีการเตรียมตัวสอบใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ กับข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้

ปัจจุบันการทำใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว หากเราศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติรวมถึงคุณสมบัติและเอกสารต่าง ๆ ว่าจะมีข้อมูลเบื้องต้นอะไรบ้าง เช่นการเตรียมตัว หรือขั้นตอนต่าง ๆ ควรรู้ไว้นั้น วันนี้เราจะมาบอกเล่าให้ได้เตรียมตัวกันให้พร้อม เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินการกันครับ

คุณสมบัติของผู้ที่จะขอใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์

Advertisement

คุณสมบัติเป็นสิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบทุกข้อ ว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ส่วนจะมีอะไรบ้างมาเช็กพร้อม ๆ กันเลย

1. อายุของผู้ที่จะขอใบขับขี่

2. มีความรู้ความสามารถในการขับรถมอเตอร์ไซค์

3. มีความรู้ในข้อบังคับการเดินรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ และตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก

4. ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้

5. ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ

6. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน

7. ไม่มีใบขับขี่รถชนิดเดียวกันอยู่แล้ว

8. ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่

เอกสารประกอบการขอใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์

เมื่อเช็กคุณสมบัติครบถ้วนแล้วก็มาเตรียมเอกสารประกอบที่จะใช้ในการขอใบขับขี่กันครับ ซึ่งมีหลัก ๆ 2 อย่างดังนี้

1. บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (Passport) ฉบับจริงและใบอนุญาตการทำงาน (Work Permit) สำหรับชาวต่างชาติ พร้อมด้วยสำเนาเอกสารดังกล่าว

2. ใบรับรองแพทย์ ที่แสดงว่าผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด ไม่เกิน 1 เดือน

3. ใบรับรองการอบรม (สำหรับกรณีผู้ทำการอบรมนอกกรมขนส่งทางบก)

ขั้นตอนการดำเนินการขอใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์

1. จองคิวในการอบรม สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการนั้น ก่อนอื่นต้องจองคิวในการอบรม ซึ่งการอบรมจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง สามารถจองได้ผ่าน 3 ช่องทางดังนี้ครับ

Advertisement

2. ทดสอบสมรรถนะร่างกาย หลังจากที่จองคิวอบรมแล้ว ในวันที่อบรม ทุกคนต้องเข้ารับการตรวจและทดสอบสมรรถนะร่างกาย ดังนี้

3. เข้ารับการอบรม  การอบรมจัดขึ้นเพื่อสร้างสำนึกการขับขี่บนท้องถนน โดยเนื้อหาอบรมจะเกี่ยวกับความรู้ด้านกฎหมายการจราจรทางบก เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ขับรถ เป็นต้น ซึ่งใช้เวลาในการอบรมทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมง โดยแบ่งเนื้อหาการอบรมออกเป็นดังนี้

4. สอบข้อเขียน ในการสอบข้อเขียนนั้น จะสอบเกี่ยวกับป้ายจราจรและกฎจราจร ซึ่งมีจำนวน 50 ข้อ เป็นข้อสอบแบบปรนัย มีให้เลือก ก-ง จะตัดสินว่าผ่านเกณฑ์การสอบที่ 45 คะแนน หรือคิดเป็น 90% ของข้อสอบทั้งหมด แต่หากสอบไม่ผ่านเกณฑ์ สามารถกลับมาสอบใหม่ ในกำหนดเวลาไว้ไม่เกิน 90 วัน

5. สอบภาคปฏิบัติ ผู้ขับขี่จะต้องทำการสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ สามารถใช้รถตัวเองหรือใช้บริการเช่ารถของกรมขนส่งก็ได้ ซึ่งค่าเช่าจะอยู่ที่คันละ 50 บาท โดยการสอบต้องขับขี่ตามท่าที่กำหนดไว้ทั้งหมด 5 ท่า ดังนี้

6. ชำระค่าธรรมเนียมและรับใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ เมื่อผ่านการทดสอบทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติแล้ว ให้มาชำระค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่กำหนดคือ 15.30 น. ซึ่งมีค่าใช้จ่ายดังนี้

หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว จะเป็นการถ่ายภาพสำหรับติดบัตร และรับใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ เท่านี้ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นแล้วครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก aphonda.co.th

User Rating: 4.85 ( 2 votes)
Exit mobile version