สัมผัสโฉมแห่งความเฉียบกับ Yamaha YZF-R6 ( ยามาฮ่า วายแซดเอฟ-อาร์ 6 ) สปอร์ตไบค์ที่คาดว่าจะมีการวางขายในราคาไม่เกิน 600,000 บาท ว่ากันว่าต้นปีนี้น่าจะได้เห็นบนท้องตลาดแน่นอน หลังได้เผยโฉมบิ๊กไบค์ไซส์กลางออกมาสู่สายตาสาธารณะชนแล้ว ความเปลี่ยนแปลงของ Yamaha YZF-R6 สปอร์ตไบค์รุ่นนี้ก็ถือว่ามีดีไซน์ที่แตกต่างเป็นอย่างมาก และยังมีประสิทธิภาพในการทำงานที่เหนือชั้น ด้วยซีรีส์ R ที่คาดว่าจะมีการออกแนวๆนี้มาเพื่อวางจำหน่ายอีกหลายๆรุ่น
เฉดสีและราคา Yamaha YZF-R6
ตอนนี้ Yamaha YZF-R6 มีเพียง 2 เฉดสีมาให้เลือกเพียงเท่านั้นคือ สีน้ำเงินและสีดำ สำหรับรุ่นสีดำ จะดำทั้งคัน แต่จะมีการเล่นเส้นสายสีขาวเล็กน้อยในคัฟเวอร์ด้านหน้าและด้านข้าง พรอมโช๊คอัพสีทองผ่องอำไพ ส่วนรุ่นสีน้ำเงิน จะเพลินตามากกว่าเดิมด้วยตัวถังสีน้ำเงิน แฟริ่งด้านข้างสีน้ำเงิน ครอบไฟหน้าสีน้ำเงิน ขอบล้อสีน้ำเงิน และกราฟฟิคบริเวณครอบท้ายสีน้ำเงิน เรียกว่าเท่สุๆเลยก็ว่าได้ ด้านราคาวางจำหน่ายของ Yamaha YZF-R6 ราคา 549,000 บาท บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคากลางๆ สำหรับมอเตอร์ไซค์ขนาด 700 ซีซี ไม่ได้ดูแพงมาก
การดีไซน์ภายนอกของ Yamaha YZF-R6 จะมาพร้อมไฟหน้าทรงสปอร์ต ไฟหน้าจะเป็นแบบดูออล แยกฝั่งซ้ายและขวา เหมือนสายตาที่กำลังจ้องมองออกมาอย่างดุดัน คัฟเวอร์ด้านหน้าขนาดใหญ่ทรงสูงพร้อมกระจกกันลมแบบใส หน้าปัดจะเป็นระบบมัลติฟังก์ชั่น ผสมผสานทั้งระบบอนาล็อคและระบบดิจิตอล 2 หน้าจอ พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายมากๆ
ต่ำลงมาจะเป็นช่องเสียบกุญแจ ที่มีระบบการล็อคต่างๆที่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก แฟริ่งด้านข้างยาวลงไปถึงด้านล่าง บังโคลนหน้าขนาดเล็ก ขอบล้อสีเดียวกับตัวรถ ตัวถังทรงสปอร์ต เบาะนั่งแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือสำหรับผู้ขับขี่และสำหรับผู้ซ้อน ช่องท้ายเป็นแบบสั้น ทำให้ดูปราดเปรียวกว่าเดิม ท่อไอเสีย Yamaha YZF-R6 มีขนาดใหญ่ ทรงตรง เรียบง่ายแต่โดนใจสุดๆ
ในส่วนของกระจกมองข้าง Yamaha YZF-R6 จะติดตั้งมาในส่วนของคัฟเวอร์ด้านหน้า และไฟเลี้ยวก็จะอยู่ที่หลังกระจกด้วยเป็นการเพิ่มวิสัยทัศน์การขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม การอกแบบแฟริ่งด้านข้างก็เน้นเป็นทรงแอโรไดนามิคในแฟริ่งด้านหน้า สำหรับตัวถังรองรับเชื้อเพลิงได้ 17 ลิตร ใช้อลูมิเนี่ยมในการผลิตและขึ้นรูป ทำให้มีน้ำหนักเบา ใครที่อยากใส่ท้ายยาวก็เพิ่มสไตลิชเทลไลท์ได้ การออกแบบ Yamaha YZF-R6 ทั้งหมดนี้ว่ากันว่าตอบโจทย์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ได้ดีมากกว่าเดิมถึง 8 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
Yamaha YZF-R6 สปอร์ตไบค์ไซส์กลางรุ่นนี้ จึงได้รับการพพัฒนาให้มีสมดุลในการขับขี่มากขึ้น มิติต่างๆของ Yamaha YZF-R6 ก็สอดคล้องกับความสปอร์ตมากขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถลุยเส้นทางต่างๆได้อย่างคล่องตัว และสามารถคอนโทรลรถบนท้องถนนได้อย่างสนุกสนาน ด้วยความที่มีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาเพิ่มจึงช่วยเติมเต็มดีไซน์ให้แปลกใหม่กว่าที่เคย น้ำหนักโดยรวมของสปอร์ตไบค์รุ่นนี้อยู่ที่ 190 กิโลกรัมเท่านั้น มิติภายนอกของ Yamaha YZF-R6 สปอร์ตไบค์รุ่นนี้ มีความยาวที่ 2,040mm กว้าง 695mm และมีความสูงที่ 1,150mm เบาะนั่งออกแบบมาให้มีความสูงที่ 850mm โดยจะมีระยะฐานล้อที่ประมาณ 1,375mm
มาดูที่เครื่องยนต์ของ Yamaha YZF-R6 กันบ้าง เจ้าสปอร์ตไบค์ไซส์กลางรุ่นนี้ มีความจุปริมาตรกระบอกสูบที 699 ซีซี เป็นเครื่องยนต์แบบ 4 กระบอกสูบ ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ Liquid-cooled 4 จังหวะ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 4 วาล์ว ยังไม่ได้มีการระบุแรงม้าอย่างชัดเจนว่าได้เท่าไหร่ ในส่วนของแรงบิดก็เช่นกัน ต้องรอในช่วงเดือนมีนาคม น่าจะมีการอัพเดทอีกรอบ ด้านระบบเกียร์ จะเพิ่มความสนุกด้วยชุดเกียร์แบบ 6 สปีด และยังมาพร้อมระบบควิกชิฟท์ ที่เป็นออพชั่นความมันส์สำหรับการส่งกำลังสุดเจ๋ง มีระยะการชักกระบอกสูบอยู่ที่ 67.0 x 42.5mm พร้อมให้อัตราการอัดที่ 13.1:1 สตาร์ทง่ายด้วยระบบ Electric และจ่ายเชื้อเพลิงผ่านระบบ Fuel injection
ด้านความปลอดภัย Yamaha YZF-R6 มีการใช้ระบบกันลื่นไถลอย่าง ทีซีเอส แทร็คชั่นคอนโทรลซิสเต็ม เข้ามาช่วยเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ให้มากขึ้น ช่วงล่าง Yamaha YZF-R6 ก็เน้นใช้ล้อแม็กซ์ขนาด 17 นิ้ว เพื่อให้รองรับน้ำหนักของตัวรถและการขับขี่ที่ดีที่สุด ด้วยยางหน้าแบบ 120/70Z ในด้านยางหลังจะเป็นแบบ 180/55Z พร้อมฟีทเจอร์มากมายที่จะเข้ามาช่วยเซฟตี้แบบเต็มที่อย่าง ระบบสลิปเปอร์คลัทข์, ระบบยามาฮ่าดีโหมดซิสเต็ม, ระบบเบรคแอนตี้ล็อคเบรคกิ้งซิสเต็ม หรือระบบเบรกเอบีเอสนั่นเอง
โดยรวมแล้ว Yamaha YZF-R6 ก็ถือว่าเป็นสปอร์ตไบค์ขนาดกลางที่ค่อนข้างน่าสนใจมากอีกหนึ่งคัน ความสมดุลต่างๆค่อนข้างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ด้านหน้า, ด้านข้าง , ด้านบน, ด้านล่าง, หรือว่าด้านท้าย มีรายละเอียดต่างๆที่น่าสนใจอยู่เพียบ ยิ่งในเรื่องของความแปลกใหม่ยิ่งโดดเด่นกว่าเดิม ความจุเครื่องยนต์ก็จัดเต็มมากๆ ความปลอดภัยก็อัดมาแน่นทั้งคัน การออกแบบการดีไซน์ เฉดสีต่างๆ โดยรวมถือว่า Yamaha YZF-R6 ดูลงตัวสุดๆ แต่ในเรื่องราคาคาดว่าหากเข้าไทย อาจจะมี + ขึ้นมาอีกนิดหน่อยแน่ๆ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก motor1.com
