สำหรับ Deus EX Machina Ago TT คันงามอย่างเท่แนวคัสต้อมที่เกิดมาเพื่อเล่าตำนานความยิ่งใหญ่ของแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ Giacomo Agostini และบิ๊กไบค์คู่ใจของ MV Agusta ในอดีตซึ่ง เจียโคโม อโกตินี (Giacomo Agostini) ที่ช่วงในยุค 60-70 นั้นสามารถคว้าชัยชนะได้สูงถึง 13 สนาม ทั้งในรุ่น 350 และ 500 ซี.ซี. ด้วยมอเตอร์ไซค์คันเก่งของ MV Agusta จากสถิติที่อาจเหนือกว่า วาเลนติโน รอสซี่ ในปัจจุบันด้วยซ้ำ
เดอุส เอ็กซ์แมชชิน่า อะโก ทีที ไม่ใช่คัสต้อมไบค์คันแรกของ Deus EX Machina แต่ถือว่ารุ่น Ago TT น่าจะสุดยอดที่สุดที่มาพร้อมด้วยเครื่องยนต์ที่ยังเป็นของ MV Agusta Brutale 800RR เป็นแบบ 3 สูบเรียง ความจุ 800 cc และจับคู่กับเกียร์ 6 สปีดเกียร์ ส่งพละกำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 13,100 รอบต่อนาที และอัตราแรงบิด 86 นิวตันเมตร ที่ 10,100 รอบต่อนาที
การออกแบบภายนอกยังคงสไตล์ความเป็นรถแข่งไว้อยู่จึงทำให้มันไม่มีไฟหน้าและไฟเลี้ยวรวมถึงแผ่นป้ายทะเบียนหรืออะไรที่จำเป็นต่อการใช้ขับขี่หรือการส่งสัญญาณเตือนบอกก็ไม่มีอย่างรถทั่วๆไป การตกแต่งที่เน้นความคล่องตัวความเร็วเหมือนนำรถแข่งมาใช้ในชีวิตจริง
สำหรับตัวถังน้ำมันมีรูปทรงยาวท้ายเชิดๆและแฟริ่งท้ายที่ได้รับการออกแบบทำขึ้นมาใหม่ด้วยอะลูมิเนียมให้คล้ายกับรถแข่ง MV Agusta ที่ Ago ใช้ขี่ในช่วงยุค 70 ที่ดูร่วมสมัยไม่ได้เก่าแต่อย่างใด ส่วนท่อไอเสียคู่ที่ดัดโค้งสีดำยกเฉียงขึ้นเล็กน้อยทำให้ดูเท่ขึ้นทันทีโดยฝีมือของ Roland Sands ที่ตัดกับเฟรมสีแดงสดที่มีตัวอักษรสีดำ เดอุส เอ็กซ์แมชชิน่า ที่เขียนมาเข้ากันได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ก็ยังได้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และชิ้นส่วนปลีกย่อยอื่นๆเช่น เรือนไมล์มาตรวัด LSL Clip On บนแฮนด์บาร์ จาก Spiegler Performance Part , โช้คหลัง Ohlins ที่ทำมาพิเศษสำหรับ Deus EX Machina Ago TT โดยเฉพาะ, เบาะหนัง Rizoma , ระบบเบรกใหม่ของ Beringer, และยางสลิคของ Pirelli , เสริมความหล่อเท่ด้วยล้อแม็ก 5 ก้าน ทำให้ดูดุมากยิ่งขึ้น จากการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดบางจุดก็ยิ่งทำให้ดูเด่นมากยิ่งขึ้นสมกับการเป็นแชมป์เก่าในวงการรถแข่งสมกับเป็นพระเอกตัวจริงบนท้องถนน
Deus EX Machina Ago TT จึงเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวมีความคล่องตัวอย่างมาเมื่ออยู่บนท้องถนนเหมือนกับได้เป็นนักแข่งรถบนท้องถนนด้วยสีสันจัดจ้านที่ต้องยกนิ้วให้กับ ทีม เดอุส เอ็กซ์แมชชิน่า ที่มีความคิดสร้างสรรผลงานสุดเจ๋งนี้ขึ้นมา
ขอขอบคุณรูปภาพจาก deuscustoms.com